ปศุสัตว์จันทบุรี บูรณาการหน่วยงานความมั่นคง ร่วมกับชุดเฉพาะกิจ ตรวจเข้มห้องเย็นป้องกันลักลอบเก็บสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย

Twitter

     วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.30 น.นายวิสุทธิ์ ประกอบความดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ร่วมกับ พล.ร.ต. รัฐศักดิ์ รักชื่น รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จังหวัดจันทบุรี ป้องกันจังหวัด บูรณาการกับชุดเฉพาะกิจของจังหวัด ประกอบด้วย น.สพ.ชาติชาย ยิ้มเครือ ปศุสัตว์จังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด ประชาสัมพันธ์จังหวัด ด่านกักกันสัตว์ ด่านตรวจประมง พาณิชย์จังหวัด และสาธารณสุขจังหวัด ลงพื้นที่ ตรวจสอบห้องเย็นในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี รวม 2 แห่ง ได้แก่ ห้องเย็นบิ๊กซี สาขาจันทบุรีพบ เนื้อสุกร 1,232.96 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 210,246 บาท เนื้อสัตว์ปีก 1,248.57 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 102,476 บาท เนื้อโค 28.82 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 5,652 บาท สินค้าประมง 748 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 138,500 บาท จากนั้น เข้าตรวจสอบห้องเย็นเทสโก้โลตัส สาขาจันทบุรี พบเนื้อสุกร 2,246.82 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 327,923 บาท เนื้อสัตว์ปีก 2,447.97 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 193,991.15 บาท เนื้อโค 124.65 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 49,169 บาท สินค้าประมง 1,106.53 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 245,592 บาท ได้ตรวจสอบเอกสารแหล่งที่มาของเนื้อสัตว์ ใบอนุญาตเคลื่อนย้ายเนื้อสัตว์ และใบรับรองให้จำหน่ายเนื้อสัตว์จากพนักงานตรวจโรคสัตว์ประจำโรงฆ่าสัตว์ เป็นการปฏิบัติการมาตรการป้องกัน ปราบปรามการลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์ ตามนโยบายประกาศสงครามกับสินค้าการเกษตรที่ผิดกฎหมาย ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมปศุสัตว์ โดยจะเอ็กซเรย์ ตรวจสอบห้องเย็นและสถานที่จำหน่ายอาหาร(Food Service) พร้อมกันทุกอำเภออย่างต่อเนื่อง ซึ่งข้อมูลจากการสำรวจห้องเย็นเก็บสินค้าการเกษตรในจันทบุรี พบว่ามีทั้งหมด 33 แห่ง ทั้งนี้ หากตรวจพบผู้ฝ่าฝืนลักลอบเคลื่อนย้ายเนื้อสัตว์มาเก็บไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 กำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2559 กำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  

@ครอบครัวปศุสัตว์
“ทำด้วยใจ ทำให้ไว ทำได้จริง”
#กรมปศุสัตว์